แนวข้อสอบการบริหารงานบุคคลากร
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องของการบริหารงานบุคคล
ก. คือเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรบุคคลในองค์การ
ข. คือการจัดงานด้านตัวบุคคล นับตั้งแต่การสรรหาบุคคลเข้าปฏิบัติงาน
ค. คือการบริหารทรัพยากรมนุษย์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้คนดี มีคุณวุฒิและมีความสามารถ
เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่มาทำงานตามความสนใจพึงพอใจอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ง. ทั้งข้อ ก. ข. ค.
ตอบ ง. ทั้งข้อ ก. ข. ค.
2. คำใดที่ใช้ในความหมายเดียวกับ “การบริหารงานบุคคล”
ก. การเจ้าหน้าที่ ข. บุคลาภิบาล
ค. การพนักงาน ง. ข้อ ก. ข. และ ค.
ตอบ ง. ข้อ ก. ข. และ ค.
3. กิจกรรมใดไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคล
ก. การสรรหาบุคคลเข้าปฏิบัติงานในองค์การ ข. การฝึกอบรม
ค. การจัดงบประมาณในองค์การ ง. การประเมินผลการปฏิบัติงาน
ตอบ ค. การจัดงบประมาณในองค์การ
4. Max Weber มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลตามทฤษฎีของเขาอย่างไร
ก. สร้างระบบงานโดยกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานเป็นส่วนหนึ่งของระบบ
ข. สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อการบริหารงานบุคคลมาก
ค. ให้ความสนใจกับ Informal Organization มาก
ง. ทั้งข้อ ก. และ ข. ถูก
ตอบ ก. สร้างระบบงานโดยกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานเป็นส่วนหนึ่งของระบบ
5. แนวความคิดในการบริหารงานบุคคลที่เรียกว่าเป็นแนว Traditional นั้นคืออะไร
ก. คือแนวที่เรียกว่า Classical Organization
ข. คือการที่มิได้ให้คุณค่าของผู้ปฏิบัติงานในแง่ที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อองค์การได้โดยตรง
ค. เป็นเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานและมุ่งหาวิธีที่ดีที่สุด
ง. ข้อ ก. ข. และ ค. ถูก
ตอบ ง. ข้อ ก. ข. และ ค. ถูก
6. การพิจารณาองค์การบริหารโดยพิจารณาโดยตรงไปที่ “มนุษย์”และ “พฤติกรรมของมนุษย์” ในองค์การ
โดยไม่สนใจโครงสร้างขององค์การ เป็นการศึกษาแบบใด
ก. แบบ Neo Classical Theory ข. แบบ Human Relations
ค. แบบ Scientific Management ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
ตอบ ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
7. การทดลองค้นคว้าของ Rlton Mayo ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญในการบริหารงานบุคคลด้านใด
ก. ทำให้นักบริหารหันมาสนใจตัวบุคคล หรือประสิทธิภาพอันเกิดจากตัวบุคคลในการปฏิบัติงาน
ข. มีผลต่อการบริหารด้านขวัญและแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
ค. ทำให้นักบริหารเองเอาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาใช้ในการบริหารงานบุคคลเป็นส่วนใหญ่
เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของคน
ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
ตอบ ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
8. คำว่า “Administration” หมายถึงข้อใด
ก. การรับใช้
ข. การทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปโดยใช้ให้ผู้อื่นเป็นผู้กระทำ
ค. กิจกรรมของกลุ่มบุคคลที่ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
9. Public Administration ในลักษณะที่เป็นศิลป์ (Art) หมายถึงอย่างไร
ก. การจัดเนื้อหาเป็นระบบระเบียบ สอนกันได้ถ่ายทอดความรู้กันได้
ข. เป็นการปฏิบัติงานหรือบริหารราชการ
ค. เป็นการทำให้นโยบายของรัฐบาลบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย
ง. ข้อ ข. และ ค.
ตอบ ง. ข้อ ข. และ ค.
10. ฝ่ายการเมือง คือใคร
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. ผู้ดำรงตำแหน่งตามวาระหรือวิถีทางการเมือง
ค. ผู้ดำรงตำแหน่งโดยยึดเป็นอาชีพจากผลการสอบ
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.
ตอบ ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.
11. ฝ่ายประจำ คือใคร
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. ผู้ดำรงตำแหน่งตามวาระหรือวิถีทางการเมือง
ค. ผู้ดำรงตำแหน่งโดยยึดเป็นอาชีพจากผลการสอบ
ง. ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ค.
ตอบ ง. ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ค.
12. ในการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายประจำนั้นมีหลักการอย่างไร
ก. ฝ่ายการเมืองกำหนดนโยบายและควบคุมการทำงานของฝ่ายประจำให้เป็นไปตามนโยบายที่วางไว้
ข. ฝ่ายการเมืองต้องขอคำปรึกษาชี้ขาดจากฝ่ายประจำเสียก่อนจึงจะกำหนดนโยบายในการทำงานได้
ค. ฝ่ายการเมืองต้องปล่อยให้ฝ่ายประจำเป็นผู้ชี้ขาดในการกำหนดนโยบายเพราะฝ่ายประจำมี
ความชำนาญงานมากกว่า
ง. ฝ่ายการเมืองต้องรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายประจำเสียก่อนจึงจะกำหนดนโยบายในการปฏิบัติงานได้
ตอบ ก. ฝ่ายการเมืองกำหนดนโยบายและควบคุมการทำงานของฝ่ายประจำให้เป็นไปตามนโยบายที่
วางไว้
13. ฝ่ายประจำมีส่วนช่วยกำหนดนโยบายของฝ่ายการเมืองได้โดยวิธีใด
ก. ช่วยชี้ขาดในการกำหนดนโยบาย
ข. ช่วยให้คำแนะนำ ข้อเสนอแนะ สถิติข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ ในการทำงานเพื่อให้ฝ่ายการเมืองพิจารณา
แก้ไขปรับปรุงนโยบายที่กำหนดไว้เดิม
ค. ช่วยให้ความคิดเห็นก่อนฝ่ายการเมืองกำหนดนโยบายในการปฏิบัติงาน
ง. ช่วยให้คำปรึกษาแก่ฝ่ายการเมืองก่อนกำหนดนโยบาย
ตอบ ข. ช่วยให้คำแนะนำ ข้อเสนอแนะ สถิติข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ ในการทำงานเพื่อให้ฝ่ายการเมือง
พิจารณาแก้ไขปรับปรุงนโยบายที่กำหนดไว้เดิม
14. สิ่งที่เหมือนกันในการบริหารรัฐกิจและการบริหารธุรกิจก็คือข้อใด
ก. วัตถุประสงค์ ข. ทุนในการดำเนินงาน
ค. กระบวนการปฏิบัติงาน ง. การคงอยู่
ตอบ ค. กระบวนการปฏิบัติงาน
15. สิ่งที่ต่างกันในการบริหารรัฐกิจ และการบริหารธุรกิจ ก็คืออย่างไร
ก. วัตถุประสงค์ ข. ทุนในการดำเนินงาน
ค. กระบวนการปฏิบัติงาน ง. ข้อ ก และ ข
ตอบ ง. ข้อ ก และ ข
16. ข้อใดเข้าคู่กันไม่ถูกต้อง
ก. ผู้บริหารระดับกลาง – เน้นทักษะในการประสานงาน
ข. ผู้บริหารระดับสูง – กำหนดนโยบาย
ค. ผู้บริหารระดับกลาง – นำเทคโนโลยีเข้ามาในหน่วยงาน
ง. ผู้บริหารระดับต้น – พิจารณาความต้องการของสังคม
ตอบ ง. ผู้บริหารระดับต้น – พิจารณาความต้องการของสังคม
17. สภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบริหารงานของรัฐได้แก่
ก. ค่านิยมของสังคม ข. เทคโนโลยีของสังคม
ค. ทรัพยากรของหน่วยงาน ง. การเมือง
ตอบ ค. ทรัพยากรของหน่วยงาน
18. สิ่งซึ่งเป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงความพึงพอใจหรือไม่พึงพอใจต่อผลงานขององค์การเรียกว่า
ก. Feedback ข. Motivator Factors
ค. Incentive ง. Outputs
ตอบ ก. Feedback
19. “กิจกรรมที่สังคมประพฤติปฏิบัติสืบต่อเนื่องกันมาและมีความสัมพันธ์กับความรู้สึกทางใจของ
ผู้ประพฤติ” เรียกว่า
ก. ค่านิยมของสังคม ข. ประเพณี
ค. ปทัสถานทางสังคม ง. เทคโนโลยี
20. การสั่งงานตามสายการบังคับบัญชา จัดเป็นการสื่อการเข้าใจแบบใด
ก. upward communication ข. downward communication
ค. horizontal communication ง. Two-way communication
ตอบ ข. downward communication
21. ตามทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow ถ้า นาย ก. ได้รับการตอบสนองทางด้านอาหารเต็มที่แล้ว
เขาจะมีความต้องการอะไรต่อไป
ก. ความต้องการทางด้านสังคม ข. ความต้องการทางด้านความปลอดภัย
ค. ความต้องการยกย่องสรรเสริญ ง. ความต้องการที่ได้รับความสำเร็จ
ตอบ ข. ความต้องการทางด้านความปลอดภัย
22. แนวคิดที่สำคัญของสำนักการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) ในเรื่องการจูงใจคือ
ก. เงิน ข. เพื่อน
ค. คำชมเชย ง. การขู่ลงโทษ
ตอบ ก. เงิน
23. สมมติฐานต่อพนักงานตามแนวทฤษฎี Y นั้น มีทัศนะต่อพนักงานว่าอย่างไร
ก. มนุษย์มีธรรมชาติเป็นคนเกียจคร้าน ข. มนุษย์สามารถพัฒนาศักยภาพของตนได้
ค. มนุษย์สนใจแต่ตนเอง ง. มนุษย์ชอบถูกนำมากกว่าที่จะเป็นผู้นำ
ตอบ ข. มนุษย์สามารถพัฒนาศักยภาพของตนได้
24. การที่นักบริหารจูงใจพนักงานโดยการให้ความสำคัญกับเนื้องานศักยภาพและความสามารถของบุคคล
และการมีอิสระในการทำงานนั้น จัดว่าเป็นการจูงใจแบบใด
ก. โดยการใช้ไม้นวมและไม้แข็ง
ข. โดยการใช้ปัจจัยภายนอกงาน (Extrinsic Factor)
ค. โดยการใช้ปัจจัยภายใน (Intrinsic Factor)
ง. โดยการใช้กระบวนการสั่งสมทางสังคม (Socialization)
ตอบ ค. โดยการใช้ปัจจัยภายใน (Intrinsic Factor)
25. การจะวินิจฉัยสั่งการให้ได้ดีนั้น ต้องอาศัยสิ่งใดบ้างต่อไปนี้
ก. สัญชาตญาณ ข. ความสมถะ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นหลัก
ค. สัมผัสที่หก ง. การมีความคิดสร้างสรรค์ / จินตนาการ
ตอบ ง. การมีความคิดสร้างสรรค์ / จินตนาการ
26. การวินิจฉัยสั่งการในยุคปัจจุบัน (Behavior Theory) เป็นการตัดสินใจแบบใด
ก. แบบรวมอำนาจ
ข. แบบยึดเอาความพอใจของผู้มีอำนาจเป็นหลัก
ค. แบบยึดถือระเบียบแบบแผนอย่างเคร่งครัด
ง. แบบการนำเอาเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มาใช้
ตอบ ง. แบบการนำเอาเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มาใช้
27. ภารกิจหลักของการบริหารงานบุคคล คืออะไร
ก. กำหนดความต้องการด้านบุคลากรของหน่วยงาน ข. การตอบสนองความต้องการของหน่วยงาน
ค. การธำรงรักษา พัฒนาและบริการ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
28. การพรรณนาลักษณะงาน (job description) หมายถึง
ก. กระบวนการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับงานกิจกรรม วิธีปฏิบัติงาน คุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงาน
ข. ข้อความที่แสดงว่าผู้ปฏิบัติงาน ทำงานอะไร ทำอย่างไรและทำไมจึงทำอย่างนั้น
ค. กระบวนการที่จัดทำขึ้น เพื่อเปรียบเทียบค่าของงานต่างๆ ในองค์การ
ง. ข้อความที่แสดงคุณสมบัติอย่างต่ำของบุคคลที่จะทำงานนั้น
ตอบ ข. ข้อความที่แสดงว่าผู้ปฏิบัติงาน ทำงานอะไร ทำอย่างไร และทำไมจึงทำอย่างนั้น
29. ทรัพยากรการบริหารได้แก่อะไรบ้าง
ก. คนและการจัดการ ข. เงิน
ค. วัสดุอุปกรณ์ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
30. ในบรรดาทรัพยากรการบริหารทั้งหลายจากข้อ 29 ทรัพยากรใดถือว่าเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด
ก. วัสดุอุปกรณ์ ข. เงิน
ค. การจัดการ ง. คน
ตอบ ง. คน
31. ปัจจัยภายในองค์การที่มีความสำคัญต่อการบริหารงานบุคคล ได้แก่อะไรบ้าง
ก. การจูงใจในรูปของทรัพย์ ข. เทคนิควิทยาการและเทคโนโลยี
ค. ลักษณะของการจัดการและสายการบังคับบัญชา ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
32. ระบบเลี้ยง ระบบเล่นพวก ระบบชอบพอเป็นพิเศษ จัดว่าอยู่ในระบบใด
ก. ระบบคุณธรรม ข. ระบบอุปถัมภ์
ค. ระบบสายเลือด ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ข. ระบบอุปถัมภ์
33. ได้มีการยอมรับว่า หน่วยงานที่ทำหน้าที่ด้านการบริหารงานบุคคลมีสิทธิอำนาจในแง่ใด
ก. ตัดสินใจสั่งการในการบริหารทั่วไป ข. ให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องบุคคล
ค. เป็นหน่วยงานฝ่ายปฏิบัติ ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. ให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องบุคคล
34. การบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับการบริหารอะไร
ก. การบริหารงานบุคคล ข. การบริหารงานการเจ้าหน้าที่
ค. การบริหารงานพนักงาน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
35. การบริหารงานบุคคล ไม่เกี่ยวกับเรื่องอะไร
ก. การผลิตบุคลากร ข. การพัฒนาบุคลากร
ค. การจ่ายค่าตอบแทนบุคลากร ง. การสรรหาบุคลากร
ตอบ ก. การผลิตบุคลากร
36. การบริหารงานบุคคลมุ่งที่จะให้บรรลุวัตถุประสงค์ข้อใดเป็นสำคัญ
ก. วัตถุประสงค์ของพนักงาน ข. วัตถุประสงค์ของสังคม
ค. วัตถุประสงค์ขององค์กร ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
37. แนวความคิดในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้าทำงานในองค์กรริเริ่มโดยชนชาติใด
ก. กรีซ ข. จีน
ค. โรมัน ง. อินเดีย
ตอบ ข. จีน
38. ในองค์การธุรกิจขนาดใหญ่ อัตรากำลังคนขององค์การถูกกำหนดโดยใคร
ก. ผู้จัดการใหญ่ ข. คณะผู้เชี่ยวชาญบุคลากร
ค. ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ค. ผู้จัดการฝ่ายบุคคล
39. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ผลที่เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์งาน
ก. การพรรณนาลักษณะงาน ข. การประเมินผลการปฏิบัติงาน
ค. การกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาปฏิบัติงาน ง. การจัดประเภทงาน
ตอบ ง. การจัดประเภทงาน
40. การแสวงหาบุคคลเข้ามาปฏิบัติงานเป็นขั้นตอนที่จัดทำภายหลังที่ได้มีการจัดทำสิ่งใดต่อไปนี้
ก. การกำหนดนโยบายบุคลากร ข. การวิเคราะห์งาน
ค. การวิเคราะห์ปริมาณงาน ง. Work Force Analysis
ตอบ ง. Work Force Analysis
41. Job Evolution คือการประเมินเกี่ยวกับอะไร
ก. งานนั้นมีค่าเป็นตัวเงินเท่าใด ข. งานนั้นมีปริมาณมากน้อยเพียงใด
ค. งานนั้นมีผลการปฏิบัติมากน้อยเพียงใด ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ก. งานนั้นมีค่าเป็นตัวเงินเท่าใด
42. ข้อใดต่อไปนี้มีความสำคัญที่สุดต่อการบริหารบุคคล
ก. Work Load Analysis ข. Work Force Analysis
ค. Job Analysis ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ค. Job Analysis
43. การกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาปฏิบัติงาน เป็นผลที่ได้มาจากอะไร
ก. การจำแนกประเภทบุคลากร ข. การจำแนกประเภทงาน
ค. การพรรณนาลักษณะบุคลากร ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ค. การพรรณนาลักษณะบุคลากร
44. การวิเคราะห์งานไม่มีประโยชน์ในเรื่องใด
ก. การจัดหาและพัฒนาบุคลากร ข. การพิจารณาความดีความชอบบุคลากร
ค. การกำหนดนโยบายธุรกิจ ง. การแนะแนวอาชีพ (Counseling)
ตอบ ค. การกำหนดนโยบายธุรกิจ
45. คำว่า 12 man-year (คน-ปี) หมายความว่าอะไร
ก. คน 1 คน ทำงาน 12 ปี ข. คน 12 คน ทำงานคนละ 1 ปี
ค. คน 24 คน ทำงานคนละ 6 เดือน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
46. พนักงานพิมพ์ดีดคนหนึ่ง พิมพ์จดหมายติดต่อกับลูกค้า 1 ฉบับ ต้องใช้เวลาโดยเฉลี่ย 2.7 นาที หมายถึง
ต้องใช้แรงงานกี่ man-hour (คน-ชั่วโมง)
ก. 5.4 ข. 0.45
ค. 0.54 ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ง. ผิดทุกข้อ
47. จากข้อมูลในข้อ 46 ข้างต้น สมมติมีจดหมายติดต่อกับลูกค้าที่ต้องพิมพ์ในแต่ละเดือนจำนวน 10000 ฉบับ
จะต้องใช้แรงงานกี่ man-hour (คน-ชั่วโมง)
ก. 600 ข. 450
ค. 300 ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ข. 450
48. จากข้อมูลในข้อที่ 47 ข้างต้น ถามว่าจะต้องจัดหาและบรรจุพนักงานพิมพ์ดีดกี่คน พิมพ์จดหมายดังกล่าว
จำนวน 10000 ฉบับในเวลา 1 เดือน โดยกำหนดให้พนักงานพิมพ์ดีดแต่ละคนพิมพ์วันละ 5 ชั่วโมง
เดือนละ 30 วัน
ก. 3 คน ข. 5 คน
ค. 8 คน ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ก. 3 คน
49. ในการวิเคราะห์งานนั้น จำเป็นจะต้องมีข้อมูลหรือเรื่องราวที่เกี่ยวกับงานจะหามาได้จากที่ใดบ้าง
ก. จากบุคคลซึ่งมาเฝ้าสังเกตการณ์ทำงานของคนงาน
ข. จากคนงานผู้ปฏิบัติงานนั้นอยู่แล้ว
ค. จากคนงานอื่นๆซึ่งรู้จักงานที่ปฏิบัตินั้นดีอยู่แล้ว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
50. หลักคุณธรรม (Merit System) ที่ใช้อยู่ในการบริหารงานบุคคลมีอยู่กี่ข้อ
ก. 3 ข้อ ข. 4 ข้อ
ค. 5 ข้อ ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ข. 4 ข้อ
51. หลักความเป็นกลางทางการเมือง (Political neutrality) ในการบริหารงานบุคคลนั้น หมายความว่า
บุคลากรในองค์กรนั้นจะต้อง
ก. ไม่เป็นสมาชิกกลุ่มการเมืองใดๆ
ข. ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลางตามตำแหน่งหน้าที่และความรับผิดชอบ
ค. ไม่เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มการเมืองใดๆ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
52. จุดมุ่งหมายที่สำคัญในการเสาะหาแรงงาน (Recruitment) ที่ดีคือ
ก. เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเสาะหาแรงงาน ข. เพื่อไม่ดึงดูดผู้ที่มีคุณสมบัติตามกำหนด
ค. เพื่อดึงดูดผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
53. โดยหลักทั่วไป การเสาะหาพนักงานที่เกี่ยวกับวิชาชีพ เช่น นายแพทย์ ทนายความ นักบัญชี องค์การ
โดยทั่วไปมีนโยบายเสาะหาพนักงานดังกล่าวจากสถาบันอุดมศึกษาในระดับใด
ก. ในระดับระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียง ข. ในระดับประเทศที่มีชื่อเสียง
ค. ในระดับท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ข. ในระดับประเทศที่มีชื่อเสียง
54. การกระทำผิดในวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวกับระเบียบวินัย (Discipline) ที่องค์การกำหนดขึ้นไว้ 4 ประเภทนั้น
ได้แก่อะไรบ้าง
ก. การมาทำงาน พฤติกรรมในการทำงาน การทำกิจกรรมภายนอก ความซื่อสัตย์
ข. การทำกิจกรรมภายนอก พฤติกรรมในการทำงาน ความไม่ซื่อสัตย์ ผลงาน
ค. การมาทำงาน พฤติกรรมในการทำงาน ความไม่ซื่อสัตย์ การทำกิจกรรมภายนอก
ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ค. การมาทำงาน พฤติกรรมในการทำงาน ความไม่ซื่อสัตย์ การทำกิจกรรมภายนอก
55. ปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาในการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารงานระดับสูง
ก. คุณภาพงาน ข. ความรอบรู้ในงาน
ค. การตัดสินใจ ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ค. การตัดสินใจ
56. วัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุดของการฝึกอบรมบุคลากร คืออะไร
ก. เพื่อการเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงาน ข. เพื่อการเพิ่มพูนประสบการณ์ในการทำงาน
ค. เพื่อการเพิ่มพูนความรู้ในการทำงาน ง. เพื่อการเปลี่ยนเจตคติในการทำงาน
ตอบ ก. เพื่อการเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงาน
57. การทดสอบเพื่อสรรหาบุคลากร วิธีใดดีที่สุด
ก. การทดสอบระดับสติปัญญา ข. การทดสอบความถนัด
ค. การทดสอบบุคลิกภาพ ความในใจ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
58. หลักเกณฑ์ในการเลื่อนตำแหน่ง ข้อใดสำคัญที่สุด
ก. ความรู้ความสามารถ ข. อาวุโสและประสบการณ์
ค. ระบบอุปถัมภ์ ง. การศึกษาสูง อายุงานมาก
ตอบ ก. ความรู้ความสามารถ
59. การเสาะหาแรงงานจากแหล่งภายใน มีผลดีอย่างไร
ก. รวดเร็ว ข. ได้คนทำงานที่ดี
ค. พัฒนาคนในองค์การ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
60. ผู้นำแบบบงการ (Directive Leaders) คือผู้นำชนิด
ก. ชอบใช้อำนาจเผด็จการ ข. ไม่มีมนุษยธรรม
ค. ขี้ขลาดชอบเล่นงานลูกน้องลับหลัง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก. ชอบใช้อำนาจเผด็จการ
61. การบริหารการเปลี่ยนแปลงขององค์กรจะต้องมีอยู่ประจำเพราะ
ก. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางวิชาการ ข. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ค. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
62. อุปสรรคของการประเมินผลงาน ข้อใดสำคัญที่สุด
ก. การมีสมมติฐานผิดๆ ข. อุปสรรคทางด้านความนึกคิด
ค. อุปสรรคทางเทคนิค ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
63. กรรมวิธีในการทำการประเมินผลงาน ข้อใดถูกที่สุด
ก. ศึกษาเกี่ยวกับงาน ข. วิเคราะห์ข้อมูล
ค. การเสนอรายงานผลการประเมิน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
64. การประเมินผลงานมีประโยชน์ คือ
ก. ทราบความสามารถของคนแต่ละคน ข. ช่วยการวางแผนอัตรากำลัง
ค. ทราบความต้องการด้านการฝึกอบรม ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
65. วัตถุประสงค์ของการสรรหาบุคคล (Procurement) ที่สำคัญที่สุด คือ
ก. Put the right man into the wrong job ข. Put the wrong man into the wrong job
ค. Put the right man into the right job ง. Put the wrong man into the right job
ตอบ ค. Put the right man into the right job
66. การบริหารงานบุคคล เป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อใดมากที่สุด
ก. การสรรหา ข. การบรรจุแต่งตั้งบุคคล
ค. การวางแผนอัตรากำลังจนถึงการลงโทษ ง. การจ่ายค่าตอบแทน
ตอบ ค. การวางแผนอัตรากำลังจนถึงการลงโทษ
67. แผนกบริการงานบุคคลมีใครเป็นหัวหน้า
ก. เจ้าของ ข. ผู้จัดการทั่วไป
ค. ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ค. ผู้จัดการฝ่ายบุคคล
68. จุดมุ่งหมายที่สำคัญในการบริหารงานบุคคลปัจจุบัน คือ
ก. ลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าจ้างมากที่สุด ข. ใช้คนให้คุ้มค่ากับค่าจ้างเงินเดือน
ค. Minimize Cost ง. Maximize Profit
ตอบ ข. ใช้คนให้คุ้มค่ากับค่าจ้างเงินเดือน
69. วิชาการบริหารงานบุคคลเป็นวิชาเกี่ยวกับ
ก. การสร้างคนให้เป็นคน
ข. การทำให้คนสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่ตนอยู่ได้ทุกระดับ
ค. รู้จักใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์ในองค์กร
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ค. รู้จักใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์ในองค์กร
70. ปัจจัยในการทำให้นักบริหารประสบผลสำเร็จในการบริหาร ข้อใดสำคัญที่สุด
ก. Man ข. Money
ค. Material ง. Management
ตอบ ก. Man
71. หลักในการวางแผนการกำหนดอัตรากำลัง (Management) คือข้อใด
ก. เข้าใจวัตถุประสงค์ให้ถ่องแท้ ข. ทำการประเมินอย่างต่อเนื่อง
ค. ศึกษาข้อมูลสิ่งแวดล้อมประกอบอย่างละเอียด ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
72. ข้อใดที่ต้องคำนึงถึงในการทำ Procurement
ก. Job Specification ข. Job Analysis
ค. Job Description ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
73. Job Specification สำคัญอย่างไร
ก. ทำให้ทราบคุณสมบัติของบุคคล ข. ทำให้สามารถบรรจุบุคคลให้ตรงกับงานได้
ค. ทำให้สามารถแก้ปัญหาคนล้นงาน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก. ทำให้ทราบคุณสมบัติของบุคคล
74. การประเมินผลงานมีหลักสำคัญ คือ
ก. ต้องกำหนดมาตรฐานผลงานไว้ล่วงหน้า ข. ความเป็นธรรมของผู้ประเมินผลงาน
ค. ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
75. ความมุ่งหมายของการบริหารการเปลี่ยนแปลง คือ
ก. เพื่อปรับปรุงคนให้เหมาะสมกับงาน ข. เพื่อให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงของบุคลากร
ค. เพื่อปรับปรุงโครงสร้างให้เหมาะสม ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
76. เป้าหมายของการบริหารงานบุคคล คือ
ก. สามารถได้คนเดิมมาทำงาน ข. เพื่อใช้คนให้มีประสิทธิภาพสูง
ค. ให้ทุกคนมีขวัญและกำลังใจที่ดี ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
77. วิธีการสรรหาบุคลากรในปัจจุบันใช้วิธีใด
ก. Merit System (ระบบคุณธรรม) ข. Patronage System (ระบบอุปถัมภ์)
ค. การสอบแข่งขัน ง. ข้อ ก และข้อ ข ถูก
ตอบ ง. ข้อ ก และข้อ ข ถูก
78. กิจกรรมใดของการบริหารงานบุคคลที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์งาน
ก. การวางแผนกำลังคน ข. การสรรหาและคัดเลือก
ค. ด้านแรงงานสัมพันธ์ ง. ทุกข้อต้องอาศัยการวิเคราะห์งาน
ตอบ ง. ทุกข้อต้องอาศัยการวิเคราะห์งาน
79. การตัดสินใจในการคัดเลือกคนขั้นสุดท้าย โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในความรับผิดชอบของใคร
ก. ผู้บริหารระดับสูง ข. ผู้จัดการฝ่ายบุคคล
ค. หัวหน้างานโดยตรง ง. ที่ปรึกษาของหน่วยงาน
ตอบ ค. หัวหน้างานโดยตรง
80. การทดสอบเกี่ยวกับการรู้จักใช้เหตุผล ความจำ ทักษะในการคิดเลข เป็นการทดสอบที่เรียกว่า
ก. Achievement Tests ข. Performance Tests
ค. Intelligence Tests ง. Interest Tests
ตอบ ค. Intelligence Tests
81. ถ้าต้องการทราบว่า บุคคลใดมีโอกาสจะประสบผลสำเร็จในการทำงานหรือไม่ควรใช้การทดสอบประเภทใด
ก. Achievement Tests ข. Performance Tests
ค. Intelligence Tests ง. Aptitude Tests
ตอบ ง. Aptitude Tests
82. การปฐมนิเทศจะสามารถดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าโครงการนี้จะถูกรับผิดชอบโดย
ก. ผู้บริหาร ข. ฝ่ายบุคคล
ค. Line ง. Line และฝ่ายบุคคล
ตอบ ง. Line และฝ่ายบุคคล
83. กิจกรรมทางด้านการบริหารงานบุคคลในขั้นตอนใดที่ผู้บริหารให้ความสนใจมากที่สุด
ก. การสรรหา ข. การปฐมนิเทศ
ค. การคัดเลือก ง. การบรรจุ
ตอบ ก. การสรรหา
84. ใครที่จะได้เป็นฝ่ายรับประโยชน์จากการทดลองงาน
ก. พนักงาน ข. ผู้บังคับบัญชา
ค. องค์การ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
85. การใช้แบบทดสอบให้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่เราต้องการวัด เรียกว่าแบบทดสอบนั้น มี...
ก. Aptitude ข. Reliability
ค. Validity ง. Description
ตอบ 8. Validity
86. การหาความต้องการในการฝึกอบรมหาได้จาก
ก. การประเมินผลกากรปฏิบัติงาน ข. การติดตามปัญหาหรือเหตุการณ์ในองค์การ
ค. การวิเคราะห์งาน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
87. ถ้าหากผู้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านหลักสูตรแล้ว แต่ยังทำงานไม่ได้มาตรฐาน ควรจะต้องทบทวนประเด็นใด
ของการฝึกอบรม
ก. ความเหมาะสมของเนื้อหาหลักสูตร
ข. ความเหมาะสมของวิธีและเครื่องมือที่ใช้ในการฝึกอบรม
ค. ความพร้อมด้านต่างๆ ของตัวผู้เข้ารับการอบรม ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
88. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
ก. การฝึกอบรมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา
ข. ปัญหาทุกประการที่เกิดขึ้นในองค์การสามารถแก้ไขได้ด้วยการฝึกอบรมพนักงาน
ค. ขั้นตอนสุดท้ายของการฝึกอบรมคือต้องวิเคราะห์หาความจำเป็นในการฝึกอบรม
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
89. ข้อใดแสดงถึงการประเมินผลการฝึกอบรม
ก. สถานที่จัดฝึกอบรมมีความสะดวกเพียงใด
ข. อาหารที่จัดให้เป็นที่ต้องการของผู้เข้ารับการฝึกอบรมหรือไม่
ค. ผู้เข้าฝึกอบรมเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามวัตถุประสงค์ของการอบรมมากน้อยเพียงใด
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
90. วัตถุประสงค์ของการทำ Job Evaluation ในองค์การ
ก. หาอัตราค่าจ้างที่ยุติธรรมกับงานในแต่ละตำแหน่งในองค์การ
ข. เพื่อปรับอัตราค่าจ้างที่จ่ายอยู่ในปัจจุบันให้เท่ากับค่าจ้างที่ได้จากการประเมิน
ค. เพื่อพิจารณาขึ้นเงินเดือนบุคลากร
ง. เพื่อเป็นเกณฑ์ในการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง
ตอบ ก. หาอัตราค่าจ้างที่ยุติธรรมกับงานในแต่ละตำแหน่งในองค์การ
91. ข้อใดตรงกับวิธีสัมภาษณ์แบบ Panel Interview
ก. ผู้สัมภาษณ์หลายคน สัมภาษณ์ผู้สมัครคนเดียวไปพร้อมๆ กัน
ข. ผู้สัมภาษณ์คนเดียว สัมภาษณ์ผู้สมัครงานหลายๆ คน พร้อม ๆ กัน
ค. ผู้สัมภาษณ์หลายคน ผลัดกันสัมภาษณ์ผู้สมัครงานคนหนึ่งโดยแบ่งเวลาให้สัมภาษณ์ได้ทีละคนในแต่ละวัน
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก. ผู้สัมภาษณ์หลายคน สัมภาษณ์ผู้สมัครคนเดียวไปพร้อมๆ กัน
92. ต่อไปนี้ข้อใดไม่อยู่ในปัจจัยที่ใช้ประกอบการสัมภาษณ์
ก. ภาษาที่ใช้สัมภาษณ์ ข. ความรู้สึกส่วนตัวของผู้สัมภาษณ์
ค. สิ่งแวดล้อม ง. ความรู้ความชำนาญของผู้สัมภาษณ์
ตอบ ค. สิ่งแวดล้อม
93. ข้อใดไม่ใช่ คำถามที่วัดความสามารถเฉพาะตัวของผู้สมัครงาน
ก. คุณชอบทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือชอบทำงานด้วยตนเอง
ข. เมื่อเป็นนักศึกษาคุณเคยทำกิจกรรมอะไรบ้าง
ค. คุณเล่นกีฬาอะไรได้บ้าง
ง. นอกจากงานขายแล้ว คุณถนัดงานด้านอื่นในสาขาการตลาดอีกหรือไม่
ตอบ ก. คุณชอบทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือชอบทำงานด้วยตนเอง
94. เมื่อมีการทำผิดระเบียบวินัยขั้นตอนปฏิบัติ ขั้นตอนที่หนึ่งคืออะไร
ก. เตือนด้วยสายตา ข. เตือนด้วยลายลักษณ์อักษร
ค. เตือนด้วยท่าทางแสดงออกเป็นส่วนตัว ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ง. ผิดทุกข้อ
95. M.B.O. หรือ Management by Objective คือการบริหารที่ยึดถือสิ่งใด
ก. การบริหารที่ยึดถือนโยบายเป็นหลัก
ข. การบริหารที่ยึดถือวัตถุประสงค์ขององค์การเป็นหลัก
ค. การบริหารที่ยึดถือกิจกรรมขององค์การเป็นหลัก
ง. การบริหารงานที่ยึดถือทรัพยากรขององค์การเป็นหลัก
ตอบ ข. การบริหารที่ยึดถือวัตถุประสงค์ขององค์การเป็นหลัก
96. ผู้บริหารระดับสูงควรมีทักษะในด้านใด
ก. ทักษะด้านเทคนิควิธีการทำงาน ด้านมนุษยสัมพันธ์ และที่มากที่สุด คือ ด้านความคิดรวบยอด
ข. ทักษะด้านเทคนิควิธีการทำงาน ด้านความคิดรวบยอด และที่มากที่สุด คือ ด้านมนุษยสัมพันธ์
ค. ทักษะด้านเทคนิควิธีการทำงาน ด้านความคิดรวบยอด และที่มากที่สุด คือ ด้านเทคนิควิธีการทำงาน
ง. ผิดทุกข้อ
ตอบ ค. ทักษะด้านเทคนิควิธีการทำงาน ด้านความคิดรวบยอด และที่มากที่สุด คือ ด้านเทคนิควิธีการ
ทำงาน
97. คำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์ควรเป็นคำถามที่
ก. แนะนำคำตอบในตัว
ข. คำถามสั้นๆ และเข้าใจง่าย
ค. คำถามที่ไม่ชัดเจนเพื่อทดสอบไหวพริบเชาวน์ปัญญา
ง. เน้นเนื้อหาเฉพาะตำแหน่งงานที่ทำ
ตอบ ข. คำถามสั้นๆ และเข้าใจง่าย
98. เพราะเหตุใดที่ทำให้องค์การต้องกำหนดระเบียบวินัย
ก. เพราะบุคลากรบางคนไม่มีระเบียบวินัยในตัวเอง
ข. เพราะต้องการสร้างแรงกระตุ้น
ค. เพราะต้องการให้บุคลากรประพฤติไปในทางเดียวกัน
ง. เพราะองค์การเห็นระเบียบวินัยเป็นสิ่งที่มีเหตุผล
ตอบ ค. เพราะต้องการให้บุคลากรประพฤติไปในทางเดียวกัน
99. มีวิธีการอย่างไรในการพิจารณาคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรม
ก. ต้องคัดเลือกผู้มีความต้องการในการฝึกอบรมด้านเดียวกันและอยู่ในสถานะหรือตำแหน่งใกล้เคียงกัน
ข. ต้องคัดเลือกผู้มีความต้องการในการฝึกอบรมด้านเดียวกันและอยู่ในหน่วยงานเดียวกัน
ค. ต้องคัดเลือกผู้มีความต้องการในการฝึกอบรมด้านเดียวกันและอยู่ในตำแหน่งต่างกัน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก. ต้องคัดเลือกผู้มีความต้องการในการฝึกอบรมด้านเดียวกันและอยู่ในสถานะหรือตำแหน่ง
หน้าที่เข้าชม | 338,601 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 227,530 ครั้ง |
เปิดร้าน | 26 พ.ค. 2563 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |